Terms & Conditions
บริษัท แปซิฟิค เลเช่อร์ (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (“ท่าน”) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ซึ่งในการให้บริการ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านจะได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (“การประมวลผล”) รวมถึงการลบและการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการ และ/หรือตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1.1 เพื่อประโยชน์ในการให้บริการและประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย เช่น การสร้างและจัดการบัญชีของท่าน การยืนยันตัวตนของท่านเพื่อรักษาความปลอดภัยในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล การเข้าสู่ระบบ (Log in)
1.2 เพื่อประโยชน์ในการให้บริการ การดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อประโยชน์ในการเข้าทำและการปฏิบัติตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการจองบัตรโดยสารเครื่องบิน การสำรองที่นั่ง การซื้อสินค้าหรือบริการอื่นของบริษัท เช่น เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน เพื่อการชำระเงิน เพื่อการติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับข้อมูลการเดินทาง บริการหรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ
1.3 เพื่อความจำเป็นในการดำเนินธุรกิจ และผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัท เช่น เพื่อจัดหาสินค้าและบริการที่ท่านร้องขอ เพื่อตรวจสอบข้อร้องเรียนที่ได้รับจากท่านและปรับปรุงบริการของบริษัท เพื่อการบริหารจัดการภายใน เพื่อการตรวจสอบและป้องกันการทุจริต การฉ้อโกงหรืออาชญากรรมอื่นๆ การทำรายการบัญชี การเรียกเก็บเงิน และการตรวจสอบบัญชี
1.4 เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
1.5 เพื่อการป้องกันหรือระงับซึ่งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือท่านและครอบครัว ในกรณีเกิดหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยทางการบิน การควบคุมและการป้องกันโรคติดต่อ
1.6 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท
1.7 เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผล อาจเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทโดยตรงหรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมาจากบุคคลภายนอก เช่น ข้อมูลทางการค้า ข้อมูลจากลูกค้าของบริษัท ข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ สัญชาติ วันเกิด ตำแหน่ง หมายเลขบัตร
ประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขสมาชิกสำหรับการได้รับสิทธิประโยชน์
ของสายการบินต่างๆ (เช่น หมายเลขRoyal Orchid Plus เป็นต้น ) ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลการแพ้
อาหาร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง ประวัติการสนทนา ภาพถ่าย
(2) ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล LINE ID บัญชีเฟซบุ๊ก
(3) ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น รายละเอียดบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต และ
ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง
(4) ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้า และ/หรือบริการของบริษัท เช่น ประวัติการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน
ข้อมูลการเดินทาง ข้อมูลสำหรับการบริการเฉพาะสำหรับท่านที่ต้องการอาหารพิเศษ เลขที่นั่งบน
เครื่องบิน บันทึกข้อมูลผู้โดยสารในการเดินทาง หมายเลขบัตรโดยสาร ข้อร้องเรียน
(5) ข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรม เช่น ประวัติการร่วมกิจกรรม ภาพถ่ายการเข้าร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะดำเนินการเฉพาะเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเท่านั้น เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถกระทำได้
3. การขอความยินยอม
3.1 ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
3.2 ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท หรือในกรณีที่ท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัท อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้
3.3 ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบประกาศนี้และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
4. คุกกี้
บริษัทมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่ใช้ในเว็บไซต์ของบริษัท ท่านสามารถดูได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปิดเผย ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ตามประกาศฉบับนี้และตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้
5.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น เช่น สายการบิน ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการเดินทางและการท่องเที่ยว คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการภาคพื้นสนามบินที่ให้บริการด้านการเช็คอิน และการจัดการสัมภาระ ผู้ให้บริการที่พักและบริการการท่องเที่ยว ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน (เช่น ธนาคาร ผู้ให้บริการรับชำระเงินแทน) บริษัทประกัน ที่ปรึกษา หน่วยงานของรัฐและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงการดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศนี้
5.2 บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อจัดเก็บและ/หรือประมวลผล โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
6. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยที่บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 (สิบ) ปี นับจากวันที่ความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัทในฐานะลูกค้าสิ้นสุดลง และบริษัทจะลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทสามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปในกรณีจำเป็นหรือตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานกว่านั้น
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่านได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์
7.3 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุอันสมควรให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
7.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.6 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.7 สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดเวลา
7.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยในแนวทางการปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อบริษัทตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 9 ของประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีเหตุที่เชื่อได้ว่า บริษัทได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยที่บริษัทจะใช้ความพยายามในการดำเนินการเกี่ยวกับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายของท่านภายในระยะเวลา 30 (สามสิบ)วัน หรือในบางกรณีอาจใช้เวลามากกว่า 30 (สามสิบ) วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อนหรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับสถานะคำขอของท่านเป็นระยะ
8. มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ให้สูญหายหรือถูกทำลาย ถูกเปิดเผย โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือนำไปใช้โดยผิดวัตถุประสงค์ หรือมีการเข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
9. การติดต่อบริษัท
ท่านสามารถติดต่อบริษัทในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ได้โดยผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท แปซิฟิค เลเช่อร์ (ประเทศไทย) จำกัด
888/154 อาคารมหาทุนพลาซ่า ชั้นที่ 15 ถนนเพลินจิต
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์: 02 254 2966
อีเมล:
บริษัทอาจดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ซึ่งท่านสามารถติดต่อสอบถามบริษัทได้ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 9 ข้างต้น หรือตรวจสอบการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ประกาศแจ้งไว้ในเว็บไซต์ ทั้งนี้ ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ